Last updated: 17 พ.ย. 2568 | 80 จำนวนผู้เข้าชม |
ทำไมเราต้องออกไปเบียดเสียดผู้คนข้างนอก? ในเมื่อคุณสามารถเปลี่ยน "บ้าน" ของคุณเอง ให้กลายเป็นสถานที่ Hang out ที่เก๋ที่สุด และเป็นส่วนตัวที่สุดได้
หลายคนลงทุนกับ Dining Table ที่สวยงาม แต่กลับพบว่ายังขาดบรรยากาศที่ทำให้การสังสรรค์หรือมื้อค่ำนั้นพิเศษขึ้นมา มันให้ความรู้สึกเป็น "ห้องกินข้าว" ที่จริงจัง มากกว่าจะเป็น "ฉากดินเนอร์" ที่น่าจดจำและผ่อนคลาย
บทความนี้จะเผยเคล็ดลับที่นักออกแบบภายในใช้ ในการ "คัดสรร" องค์ประกอบรอบ Dining Table ที่เป็นมากกว่า โต๊ะทานข้าว ตั้งแต่รูปทรงของโต๊ะ, การเลือกที่นั่ง, ไปจนถึงการจัดแสงไฟ เพื่อสร้าง Vibe ดินเนอร์ที่เก๋ไก๋ มีสไตล์ เหมือนคุณกำลังนั่งอยู่ในคาเฟ่เท่ ๆ หรือร้านอาหารหรูที่จองคิวยาก
สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือ รูปทรงของ Dining Table มีผลโดยตรงต่อการปฏิสัมพันธ์ของผู้ร่วมโต๊ะ มันไม่ใช่แค่ที่วางอาหาร แต่มันคือ "เวที" ของการสังสรรค์
เสน่ห์ของโต๊ะกลมคือการ "ไม่มีหัวโต๊ะ-ท้ายโต๊ะ" ทุกคนบนโต๊ะสามารถมองเห็นหน้าและสบตากันได้อย่างทั่วถึง มันสร้างความรู้สึก "โอบล้อม" (Intimate) และเป็นกันเองโดยอัตโนมัติ ทำให้การสนทนาลื่นไหลต่อเนื่องไปรอบโต๊ะได้อย่างมหัศจรรย์ นี่คือรูปทรงที่สมบูรณ์แบบสำหรับกลุ่มเล็กถึงกลาง ที่เน้นความสัมพันธ์และการพูดคุย
ในทางกลับกัน หลายคนเลือกโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่กลับเลือกผิดขนาด คีย์เวิร์ดสำคัญคือ "แคบ" (Narrow) ลองนึกถึงโต๊ะประชุมในออฟฟิศที่กว้างจนตะโกนคุยกัน... นั่นคือสิ่งที่เราไม่ต้องการ โต๊ะยาวที่ "ไม่กว้าง" จนเกินไป จะดึงให้คนนั่งฝั่งตรงข้ามขยับเข้ามาใกล้กันพอดี ทำให้เอื้อมมือแชร์อาหารจานกลางได้ง่าย และสามารถพูดคุยข้ามโต๊ะได้โดยไม่ต้องใช้เสียงดัง สร้างบรรยากาศที่คึกคักแต่ยังคงความใกล้ชิด

ขั้นตอนต่อมาคือการทลายความ "เป็นทางการ" ของ dining table set แบบเดิมๆ ที่ทุกอย่างต้องเหมือนกันหมด
การเพิ่มม้านั่งเข้ามาในชุดโต๊ะอาหาร คือทางลัดที่เร็วที่สุดในการสร้างลุคที่ "ไม่ตั้งใจ" มันให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ เหมือนร้านอาหารสไตล์ Bistro หรือคาเฟ่เก๋ๆ ในยุโรป เคล็ดลับคือการใช้ม้านั่งเพียงด้านเดียว (โดยเฉพาะด้านที่ติดผนัง) และจับคู่กับเก้าอี้ดีไซน์สวยในฝั่งตรงข้าม เพื่อสร้างความน่าสนใจและดูมีสไตล์
ลืมภาพการใช้เก้าอี้ 6 ตัวที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะไปได้เลย การ Mix & Match คือหัวใจของลุคคาเฟ่หรูที่ดู "คัดสรร" มาแล้ว เคล็ดลับคือการคุม "โทนสี" หรือ "วัสดุ" หลักไว้ แต่เลือกเก้าอี้ที่มีรูปทรงหรือดีไซน์ต่างกันเล็กน้อย หรือใช้เทคนิคง่ายๆ อย่างการใช้เก้าอี้หัวโต๊ะ ที่มีดีไซน์โดดเด่น มีที่เท้าแขน หรือหุ้มผ้าที่หรูหรากว่าเก้าอี้ตัวอื่นๆ
นี่คือหัวใจสำคัญที่จะเปลี่ยน โต๊ะทานข้าว ธรรมดา ให้กลายเป็นร้านอาหารหรู Vibe ที่เราตามหาเกิดขึ้นจากสองสิ่งนี้
คุณไม่สามารถมีดินเนอร์ที่บรรยากาศดีใต้แสงไฟนีออนสีขาวสว่างจ้าได้ สิ่งที่ต้องมีคือ Statement Pendant Light หรือโคมไฟแขวนดีไซน์สวยโดดเด่น 1 ดวง แขวน "ต่ำ" ลงมาเหนือศูนย์กลางโต๊ะ (ประมาณ 75-90 ซม. จากผิวโต๊ะ) การแขวนต่ำจะช่วย "กำหนดขอบเขต" สร้างจุดโฟกัสที่โต๊ะ และทำให้พื้นที่รอบข้างมืดลงเล็กน้อย สร้างความรู้สึกเป็นส่วนตัว
และนี่คือเคล็ดลับของร้านอาหารหรูทุกแห่ง: ต้องใช้ไฟสี "Warm White" (สีนวล) เท่านั้น และ "ติดตั้งตัวหรี่ไฟ (Dimmer)" เสมอ เมื่อถึงเวลาดินเนอร์ การลดแสงให้ซอฟต์ลงเล็กน้อยจะเปลี่ยนบรรยากาศทั้งห้องในทันที
การจัดโต๊ะไม่ใช่แค่การวางจานชาม แต่คือการสร้าง "Layer" หรือมิติบนโต๊ะ เริ่มต้นด้วยการใช้ผ้าปูโต๊ะแบบยาวที่มี Texture สวยๆ พาดกลางโต๊ะ, ใช้ผ้าเช็ดปาก คุณภาพดีที่ทำจากผ้าลินินแทนกระดาษ, และที่สำคัญคือแจกันทรงเก๋ที่ "ไม่สูง" จนบังหน้าคนฝั่งตรงข้าม และสุดท้าย... แสงเทียน (แม้จะเป็นเทียน LED ดีไซน์สวยก็ตาม) คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการสร้าง Vibe โรแมนติกและหรูหรา

ตอบ: ขึ้นอยู่กับรูปทรงของพื้นที่ ถ้าพื้นที่ที่เว้นไว้ค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส "โต๊ะกลม" มักจะประหยัดพื้นที่ในการสัญจรโดยรอบและสร้าง Vibe ที่เป็นกันเองได้ดีกว่า แต่ถ้าพื้นที่ของคุณเป็นแบบแคบและยาว (เช่น ข้างโซฟา) "โต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบแคบ" หรือโต๊ะที่พับเก็บ/ขยายได้ จะตอบโจทย์การใช้งานและการจัดวางมากกว่า
ตอบ: เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่สบายเท่าเก้าอี้ที่มีพนักพิงสูง แต่เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยเลือก "ม้านั่งแบบมีเบาะ" (Upholstered Bench) หรือใช้หมอนอิงดีไซน์เก๋วางเสริมเพื่อพิงผนัง ม้านั่งอาจจะเหมาะสำหรับมื้อที่ไม่เป็นทางการมาก หรือใช้ในด้านที่สมาชิกในบ้านนั่งไม่นาน หรือสำหรับเด็กๆ
ตอบ: มีครับ หัวใจคือ "Less is More" แต่ต้อง "Quality" (น้อยแต่เน้นคุณภาพ)
เลือกของชิ้นหลัก (Centerpiece) ที่สวยจริง 1 ชิ้น (เช่น แจกันดีไซน์เก๋ + ดอกไม้สด)
ใช้ผ้าเช็ดปาก "ผ้าลินิน" หรือคอตตอนคุณภาพดี แทนกระดาษ
ใช้ "แสงเทียน" (จริงหรือ LED วอร์มไวท์) เสมอ เพียง 3 อย่างนี้ จะยกระดับโต๊ะอาหารของคุณให้ดูแพงขึ้นทันทีโดยไม่ต้องใช้ของเยอะเลย
Dining Table เป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ "Vibe" ที่เก๋ไก๋นั้นเกิดจากการผสมผสานที่ลงตัวของทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงโต๊ะที่ส่งเสริมการสนทนา, ที่นั่งที่ดูผ่อนคลาย, และแสงไฟที่ถูกออกแบบมาอย่างดี
บ้านของคุณคือสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างความทรงจำ และการสังสรรค์อย่างมีสไตล์ ลองจัดดินเนอร์ครั้งต่อไป โดยเริ่มจากการ "คัดสรร" บรรยากาศรอบ โต๊ะทานข้าว ของคุณ แล้วคุณจะพบว่า ไม่จำเป็นต้องออกไปไหนไกลเลย
WA LIVING AND DESIGN เราคือร้านเฟอร์นิเจอร์ที่จะเติมเต็มให้ทุกพื้นที่มีความหมาย ไม่ว่าจะเป็น บ้าน, ออฟฟิศ ฯลฯ โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้หลงไหลในเรื่องของการตกแต่งบ้านและการออกแบบ สามารถชมสินค้าจริงได้ที่โชว์รูม สุขุมวิท 55
เปิดทำการ จันทร์-เสาร์ 9.00 - 18.00 น. และวันอาทิตย์ 10.00-17.00 น.
หรือติดต่อเราได้ทาง 081-827-9399 และ LineOA @walivinganddesign
17 พ.ย. 2568
17 พ.ย. 2568